Apple จับมือ Google เพื่อนำเทคโนโลยี AI รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Gemini มาใช้ใน iPhone ดีลนี้ถือเป็นการพลิกโฉมหน้าวงการสมาร์ทโฟน เพราะ Gemini จะช่วยยกระดับความสามารถด้าน AI ของ iPhone ให้ทัดเทียมกับคู่แข่งในตลาด
Gemini คืออะไร
Gemini คือโมเดล AI Generative ล่าสุดจาก Google ที่มีความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และสร้างเนื้อหาได้อย่างน่าทึ่ง Gemini สามารถ
- ตอบคำถามภาษาไทยได้อย่างชาญฉลาด
- เขียนบทความ บทกวี เรื่องราว และเนื้อหาอื่นๆ ได้อย่างสร้างสรรค์
- แปลภาษาได้อย่างแม่นยำ
- สรุปข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลภาษาไทยได้
Google Gemini คือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ตระกูลใหม่ล่าสุดจาก Google DeepMind ทำหน้าที่เป็นผู้สืบทอดต่อจาก LaMDA และ PaLM 2 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566
Gemini ประกอบด้วยโมเดล 3 รุ่นย่อย
- Gemini Ultra: โมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำและความละเอียดสูง เช่น การเขียนบทความ การแปลภาษา การเขียนโค้ด
- Gemini Pro: โมเดลที่มีความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความเร็ว เหมาะสำหรับงานทั่วไป เช่น การตอบคำถาม การเขียนสรุป การแปลภาษา
- Gemini Nano: โมเดลที่มีความเร็วสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการตอบสนองแบบเรียลไทม์ เช่น การสนทนา การโต้ตอบกับผู้ใช้
Gemini ได้รับการยกย่องว่า มีความสามารถเหนือกว่า OpenAI GPT-4 ในหลายด้าน มีความเข้าใจภาษาและสามารถตอบคำถามได้อย่างแม่นยำ สามารถสร้างข้อความที่หลากหลายรูปแบบ
สามารถเขียนโค้ดได้ แปลภาษาได้หลายภาษา เขียนข้อความในรูปแบบต่างๆ เช่น บทความ อีเมล จดหมาย โค้ด บทกวี สรุปข้อมูลมีหลายผลงานที่ใช้เพื่อสรุปข้อมูลทำ visualization ทำให้รายงานใีรูปแบบที่น่าสนใจและนำเสนอเข้าใจง่าย นักเขียน นักเรียน นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักแปล นักธุรกิจ บุคคลทั่วไปสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้เป็นอย่างดี
ทำไม Apple ถึงจับมือกับ Google
ปัจจุบัน Apple กำลังเผชิญแรงกดดันจากคู่แข่งอย่าง Samsung และ Huawei ที่พัฒนาเทคโนโลยี AI ในสมาร์ทโฟนของตัวเองอย่างรวดเร็ว Apple เล็งเห็นถึงศักยภาพของ Gemini ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ iPhone ไปอีกขั้น โดย Gemini จะช่วยพัฒนาให้ Siri เข้าใจภาษามนุษย์และตอบคำถามได้อย่างแม่นยำ ฉลาด และเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ใช้ AI เช่น การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ การเขียนข้อความอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัว ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้โดย Gemini จะช่วยให้ iPhone ทำงานได้อย่างชาญฉลาดและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น ยกระดับประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันต่างๆ บน iPhone
ดีลนี้จะส่งผลต่อตลาดสมาร์ทโฟนอย่างไร
การจับมือกันระหว่าง Apple และ Google จะสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดสมาร์ทโฟนอย่างแน่นอน ดีลนี้จะเพิ่มการแข่งขันในตลาด AI บนสมาร์ทโฟน กระตุ้นให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่น ๆ พัฒนาเทคโนโลยี AI ของตัวเอง มอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับแก่ผู้ใช้สมาร์ทโฟน
ข้อดีของการจับมือ Google
Apple สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ล้ำสมัยของ Google โดยไม่ต้องลงทุนพัฒนาเอง Google ได้ฐานผู้ใช้งาน iPhone เพิ่มเติมกว่า 2 พันล้านคน อนาคตของ AI บน iPhone
การนำ Gemini มาใช้บน iPhone เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น Apple วางแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยี AI ของตัวเองต่อไปในอนาคต เป้าหมายของ Apple คือ ทำให้ iPhone เป็นสมาร์ทโฟนที่ฉลาดที่สุดในตลาด มอบประสบการณ์การใช้งานที่ล้ำสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ เปลี่ยน iPhone ให้กลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะที่รู้ใจผู้ใช้
ดีลนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทั้ง Apple และ Google แต่แหล่งข่าววงในหลายแห่งมั่นใจว่าดีลนี้มีโอกาสเกิดขึ้นสูง หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง จะเป็นการประกาศศักดาของ Apple ในการแข่งขันด้าน AI และ iPhone จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังและฉลาดที่สุดในโลก
อนาคตของ AI บน iPhone การจับมือกับ Google ครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า Apple ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี AI มากขึ้น และพร้อมที่จะร่วมมือกับผู้อื่นเพื่อนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาสู่ผู้ใช้งาน iPhone อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามหลายประการเกี่ยวกับข้อตกลงนี้ เช่น ข้อมูลผู้ใช้จะถูกจัดการอย่างไร ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้จะได้รับการคุ้มครองหรือไม่
คงต้องติดตามกันต่อไปว่า การจับมือกันครั้งนี้จะส่งผลต่อตลาดสมาร์ทโฟนและเทคโนโลยี AI อย่างไร
อ้างอิง:
https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-03-18/apple-in-talks-to-license-google-gemini-for-iphone-ios-18-generative-ai-tools
https://www.amarintv.com/spotlight/business-marketing/detail/62040
https://www.thairath.co.th/lifestyle/tech/2771952
